ไขมันตัวร้าย กำจัดได้ด้วย FAT สลายไขมัน
คำว่าฉีดแฟต (FAT) เป็นคำที่ได้ยินกันมาเนิ่นนานในวงการทำหน้า และแทบจะเป็นโปรแกรมลำดับแรกๆ ที่คนเลือกทำ เนื่องจากเป็นการฉีดสลายไขมันบริเวณต่างๆ ที่ทุกคนมีปัญหาอยู่แล้วและยังเห็นผลเร็ว ปลอดภัยไม่เกิดผลข้างเคียง ทั้งยังเป็นโปรแกรมที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันอยู่แล้ว ไม่ต้องทำความเข้าใจกันใหม่ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมมากนัก แต่ความจริงแล้วการฉีดแฟตสลายไขมันนั้นมีหลายประเภท หลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
ไขมันสะสมเกิดจากการรับประทานอาหารเข้าไปเกินกว่าความต้องการของร่างกาย ตามที่ควรได้รับในแต่ละวัน ทำให้ร่างกายเผาผลาญออกไปไม่หมด หรือเกินกำลังการเผาผลาญของร่างกาย ทำให้ถูกสะสมไว้ในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย โดยกระจายได้ทั่วทั้งร่างกาย ตั้งแต่ใบหน้าจนถึงลำตัว ไม่ว่าจะเป็น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง
ฉีดแฟต (FAT) สลายไขมัน (Fat & Advance Rebooster)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
หลักแล้วการทำงานของการ ฉีดแฟต (FAT) คือ ฉีดสลายไขมันด้วยการนำตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวด้วยวิธีการฉีดเพื่อให้ตัวยาเข้าไปช่วยสลายไขมัน เป็นวิธีการลดไขมันและลดเซลลูไลท์เฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด หรือทำการดูดไขมัน เป็นการลดและกระชับสัดส่วนให้ได้รูป ในบริเวณที่ต้องการได้แบบรวดเร็ว โดยตัวยาจะทำให้ผิวกระชับได้เอง โดยไม่ต้องกังวลว่าหลังฉีดไปแล้ว ผิวบริเวณที่ฉีด จะย่นหรือย้วยจากการสลายของไขมัน นอกจากนี้ยังช่วยในกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้กับผิวทำให้ผิวฟูเด้งกระชับ โดยไขมัน ที่ตายจากการฉีดแฟตสลายไขมันจะกลายเป็นของเสีย ถูกขับออกทางระบบน้ำเหลือง
โดยปกติแล้วตัวยาที่จะนำมาผลิตแฟตสลายไขมันมักจะประกอบไปด้วยตัวยาที่มีคุณสมบัติเร่งการเผาผลาญไขมัน ช่วยกระชับผิว รวมถึงช่วยลดกระบวนการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ มักจะสกัดจากธรรมชาติ เช่น แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) มีคุณสมบัติช่วยเปลี่ยนเซลล์ไขมันให้กลายเป็นพลังงาน รวมถึงสลายไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนัง
ฉีดแฟต (FAT) สลายไขมัน (Fat & Advance Rebooster)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
• สารสกัดอาร์ติโชค (Artichoke extract) ลดการสร้างไขมันและควบคุมระดับไขมันแบบเฉพาะจุด
• ไทโรซีน (Tyrosine) เข้าไปเร่งการเผาผลาญไขมันของร่างกายให้มีประสิทธิภาพเต็มที่มากขึ้น
• ฟอสฟาติดิลโคลีน (Phosphatidylcholine) ทำให้ไขมันแตกตัว ช่วยเผาผลาญและละลายไขมัน
• เมโสสตาบิล (Mesostabyl) ลดการเกิดเซลล์ไขมันใหม่และคอเลสเตอรอล
• กรดดีออกซีโคลิก (Deoxycholate) สลายไขมันทำลายเซลล์ไขมัน กระตุ้นคอลลาเจน
• ลิเพส (lipase) เร่งการย่อย และสลายไขมัน
ฉีดแฟตสลายไขมันเป็นสารสกัดหลักซึ่งเป็นสารที่สกัดออกมาจากถั่วเหลือง ไข่แดงนอกจากนี้ ยังมีวิตามินอื่นๆ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดไขมันได้แบบเฉพาะจุดรวมอีกหลายชนิด
แฟตสลายไขมัน ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
การฉีดแฟตสลายไขมัน ช่วยลดไขมันที่สะสมทุกบริเวณ เหมาะสำหรับทุกสัดส่วนในร่างกายที่มีปัญหาไขมันสะสมทำไขมันลดลงเร็วขึ้น สลายไขมันโดยการขับออกมาเป็นของเหลว ทางเหงื่อ ปัสสาวะ หรืออุจจาระ ไม่ต้องทำการผ่าตัดไม่ต้องพักฟื้น ไม่ก่อให้เกิดอันตราย
ต้องมีอายุเท่าไร จึงจะใช้บริการฉีดแฟตสลายไขมันได้ ?
ผู้เข้ารับบริการแฟตสลายไขมันจะต้องมีอายุ 20 ขึ้นไปและควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนเข้ารับบริการเท่านั้น
ข้อดีของการฉีดแฟตสลายไขมัน
1.ไม่ต้องพักฟื้น
2.บวมช้ำน้อย อาจบวมช้ำจากรอยเข็มได้เพียงเล็กน้อย
3.ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน
4.ราคาไม่แพงเหมาะสำหรับผู้มีงบน้อย
5.ช่วยในการลดไขมันอย่างเร่งด่วน เห็นผลเร็ว 5-7 วัน
6.มีความปลอดภัยเนื่องจากผลิตจากธรรมชาติ
7.สลายไขมันเฉพาะจุดได้
ฉีดแฟต (FAT) สลายไขมัน (Fat & Advance Rebooster)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
แฟตสลายไขมันฉีดบริเวณใดได้บ้าง ?
1.ฉีดแฟตสลายไขมันแก้ม เพื่อให้ใบหน้าเรียวขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนไขมันสะสมที่แก้มและการรับประทานอาหาร
2.ฉีดแฟตสลายไขมันแก้ม เพื่อให้ใบหน้าเรียวขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนไขมันสะสมที่แก้มและการรับประทานอาหาร
3.ฉีดแฟตสลายไขมันเหนียง หรือใต้คาง เพื่อทำให้เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น และ ดูเล็กลงหลังจากการฉีดแฟตสลายไขมัน จะลด 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรก
4.ฉีดแฟตสลายไขมันต้นแขน เพื่อช่วยให้ต้นแขนดูเล็กลง ดูกระชับตึงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังจะช่วยให้ขนาดตัวดูเหมือนเล็กลงได้ด้วยหากฉีดลดความกว้างของบ่า สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อแจ้งความกังวลได้
5.ฉีดแฟตสลายไขมันบริเวณหน้าท้อง แต่ไขมันบริเวณนี้จะมีขนาดที่ใหญ่ และหนา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
6.ฉีดแฟตสลายไขมันต้นขา เพื่อปัญหาผิวเปลือกส้ม และ ไขมันที่สะสมอยู่บริเวณต้นขา ทำให้ต้นขากระชับ และเล็กลง แต่อาจจะต้องดูว่าปัญหาเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน
7.บริเวณสลายไขมันสะโพก เพื่อลดขนาดสัดส่วนของสะโพกให้ได้สัดส่วนมากขึ้น ลดผิวเปลือกส้มและคลื่น รวมทั้งรอยลักยิ้มต่างๆ บริเวณสะโพก
อาการหลังฉีดแฟตสลายไขมัน
หลังฉีดแฟตสลายไขมันจะมีอาการบวมจากปริมาณตัวยาที่ทำการฉีดเข้าไป โดยตัวยาจะซึมเข้าสู่ผิวหนังและจะยุบไปเองประมาณ 3-4 ชั่วโมง หลังจากการฉีดจะไม่มีอาการเจ็บ ปวด หรืออักเสบ ไม่อักเสบ แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อยจากรอยเข็มได้
ความรู้สึกหลังฉีดแฟตสลายไขมัน ?
ฉีดแฟตสลายไขมันมีเป็นการฉีดตัวยาลงผิวหนัง ทำให้มีอาการเจ็บจากรอยเข็มบ้าง แต่มีการประคบน้ำแข็ง หรือสามารถใช้ร่วมกับการทายาชาจะช่วยลดอาการเจ็บจากการฉีดได้
ฉีดแฟต (FAT) สลายไขมัน (Fat & Advance Rebooster)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ฉีดแฟตสลายไขมันอยูได้นานเท่าไร ?
ฉีดแฟตสลายไขมันจะอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันควรลดปริมาณไขมัน อาหารมัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน เพื่อป้องกันการกลับมาสะสมของชั้นไขมันบริเวณต่างๆ
ฉีดแฟตสลายไขมัน ต้องฉีดกี่ครั้งจึงจะเห็นผล
หากเป็นผู้ที่ฉีดแฟตสลายไขมันในครั้งแรกจะเห็นผลว่าบริเวณที่ฉีดจะยุบลง 20-30 % ภายใน 5 -7 วัน และจะรู้สึกว่าเนื้อไขมันบริเวณที่ฉีดมีความนิ่มลง ไขมันมีขนาดเล็กลง หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่
สามารถกลับมาฉีดแฟตสลายไขมันซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่มีไขมันมาก อาจต้องฉีด 4-5 ครั้ง อย่างต่อเนื่องจะทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้นขึ้น สามารถฉีดย้ำได้หลายครั้งจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล
ฉีดแฟต (FAT) สลายไขมัน (Fat & Advance Rebooster)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ฉีดแฟตสลายไขมัน เหมาะกับใครบ้าง ?
1.ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมแบบเฉพาะจุดที่ต้องการกำจัดออก
2.ผู้ที่มีไขมันสะสมอยู่ในบริเวณที่ไม่สามารถกำจัดหรือลดได้ด้วยการออกกำลังกาย หรือใช้เครื่อง
3.ผู้ที่ต้องการลดไขมันแต่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือดูดไขมัน
4.ผู้ที่ไม่อยากพักฟื้น ไม่มีเวลาพักฟื้น
5.ผู้ที่กลัวความเจ็บหรือกลัวการผ่าตัด
6.ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ ให้ไขมันที่ใบหน้า เช่น แก้ม เหนียง ลดลงอย่างชัดเจนและรวดเร็ว
7.ผู้ที่ต้องการลดไขมันด้วยการฉีดและปลอดภัย 100%
8.ผู้ที่ต้องการเห็นผลชัดเจน แต่ไม่มีเวลามาทำเครื่องหลายๆ ครั้ง
9.ผู้ที่ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร แต่ไขมันบางส่วนไม่ลด
10.ผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด
11.ผู้ที่ลดไขมันยาก
ฉีดแฟตสลายไขมัน ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?
1.หญิงตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร
2.ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดแฟตสลายไขมัน
3.ผู้ป่วยที่มีการรับประทานยาเป็นจำนวนมากเช่น เบาหวาน มะเร็ง ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานที่ต้องอินซูลิน อยู่ต่อเนื่อง
4.ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด โรคหัวใจ หรือระบบไหลเวียนของโลหิต
การเตรียมตัวก่อนฉีดแฟตสลายไขมัน
1.พักผ่อนให้เพียงพอ
2.ก่อนทำการเข้ารับบริการแฟตสลายไขมันควรแจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัวแก่คลินิกที่เข้าใช้บริการอย่างละเอียด
3.งดยาในกลุ่มแอสไพริน ยาบำรุง และวิตามิน
4.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 วันก่อนฉีดแฟตสลายไขมัน
ขั้นตอนการฉีดแฟตสลายไขมัน
1.แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำปรึกษาว่าต้องใช้ปริมาณเท่าใด และต้องฉีดบริเวณใดบ้าง รวมทั้งปรึกษาในบริเวณที่กังวล
2.ทำความสะอาดใบหน้า แปะยาชา หรือ การประคบน้ำแข็ง
3.แพทย์จะผสมตัวยาในปริมาณที่เหมาะสมและฉีดเข้าไปบริเวณที่จะสลายไขมัน
ฉีดแฟต (FAT) สลายไขมัน (Fat & Advance Rebooster)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
การดูแลตัวเองหลังจากทำการฉีดแฟตสลายไขมัน
1.หลังจากฉีดแฟตสลายไขมัน ไม่ควรกด หรือนวดบริเวณที่ฉีด เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการอักเสบจากรอยเข็มบริเวณที่ฉีดได้
2.ดื่มน้ำให้มาก เพราะไขมันที่ฉีดจะสลาย และถูกขับออกมาทางปัสสาวะ
3.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ลดของทอด ของมันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสร้างไขมันใหม่ทำให้เกิดการสะสมขึ้นอีก
4.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และรีดไขมันออกจากร่างกายได้มากขึ้น ลดการสะสมไขมันใหม่
5.ออกกำลังกายเพื่อความกระชับของชั้นผิวหนังที่ได้สลายไขมันไป
6.หลังจากฉีดแฟตสลายไขมันห้ามขัดหน้า นวดหน้า เลเซอร์รวมทั้งว่ายน้ำ ประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากรอยเข็ม
7.งดเครื่อการดื่มเครื่องแอลกฮอล์ สูบบุหรี่ 3 วันหลังจากฉีด และพักผ่อนให้เพียงพอ
ฉีดแฟตสลายไขมันต่างจาก การฉีด Toxin อย่างไร ?
การทำงานของฉีดแฟตสลายไขมัน คือการสลายเซลล์ไขมัน รวมทั้งไปลดขนาดเซลล์ไขมันที่สะสม ทำให้ผิวหนังมีขนาดไขมันที่น้อยลงและมีขนาดที่เล็กลงโดยไขมันจะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ โดยแพทย์จะทำการฉีดตัวยาลงบริเวณชั้นไขมันโดยตรง
นิยมฉีดในบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา สะโพกเป็นต้น
ส่วนการทำงานของToxin นั้น คือ การฉีดสารลงบนชั้นกล้ามเนื้อเพื่อทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด หรือบริเวณที่ต้องการให้เกิดผลทำงานน้อยลง นิยมฉีดในบริเวณกราม ริ้วรอย บริเวณหน้าผาก หางตา เป็นต้น
ทั้งสองโปรแกรมจึงเป็นโปรแกรมที่มีการทำงานต่างกัน ใช้หลักการฉีดคนละบริเวณชั้นผิวหนัง เป้าหมายในการฉีดต่างกัน แฟตจะช่วยสลายไขมัน Toxin จะช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อชั่วคราวดังนั้นทั้งสองโปรแกรมจึงไม่มีความเหมือนกัน ไม่มีความข้องเกี่ยวกันและสามารถใช้บริการร่วมกันได้ในครั้งเดียว
ภาพก่อน – หลัง ฉีดแฟต (FAT) สลายไขมัน (Fat & Advance Rebooster)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ฉีดแฟตสลายไขมันต่างจาก การฉีดสารเติมเต็มอย่างไร ?
สารเติมเต็ม (Hyaluronic Acid) หรือ HA ช่วยเติมเต็มหรือเสริมชั้นในผิวหนังและใต้ผิวหนัง รวมทั้งที่ช่วยลดและแก้ไขปัญหาผิว หรือเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่างๆ ของใบหน้า ให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ กระชับ เปล่งปลั่ง มีลักษณะเป็นเนื้อเจล ที่มีมวลความเหลวแตกต่างกันไปตามรุ่น เพื่อความเหมาะสมในการเลือกใช้ในแต่ละบริเวณ
การฉีดแฟตสลายเซลล์ไขมัน เป็นการลดไขมันรวมทั้งไปลดขนาดเซลล์ไขมันที่สะสม ทำให้ใต้ผิวหนังมีขนาดไขมันที่น้อยลงและมีขนาดที่เล็กลงโดยไขมันจะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ โดยแพทย์จะทำการฉีดตัวยาลงบริเวณชั้นไขมันโดยตรง
การทำงานแฟตสลายไขมัน และฟิลเลอร์จึงต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นกลุ่มสารเติมเต็ม แฟตเป็นกลุ่มสลายไขมัน ซึ่งสารเติมเต็มจะแพทย์จะฉีดบริเวณชั้นผิวหนังที่มีความเหมาะสมในการแก้ปัญหานั้นๆ ต่างจากการฉีดแฟตสลายไขมันที่จะต้องฉีดบริเวณชั้นไขมันเท่านั้น ทั้งสองโปรแกรมจึงสามารถทำการใช้บริการร่วมกันได้โดยไม่ต้องแยกวันมาทำ โดยไม่ก่อให้เกิดความอันตราย
ภาพก่อน – หลัง ฉีดแฟต (FAT) สลายไขมัน (Fat & Advance Rebooster)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ฉีดแฟตสลายไขมันต่างจากต่างจากดูดไขมัน อย่างไร ?
การดูดไขมัน เป็นการใช้เครื่องมือดูดไขมัน ที่มีลักษณะคล้ายท่อยาว ใส่เข้าไปบริเวณใต้ผิวหนัง เพื่อใช้ดูดไขมันส่วนเกินออกมาจากบริเวณต่างๆ โดยบริเวณที่นิยมทำคือบริเวณ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน ลำคอ และก้น เพื่อเป็นการลดจำนวนไขมันบริเวณส่วนต่างๆ ที่สะสมเฉพาะที่ แต่การดูดไขมัน เป็นสิ่งที่ไม่สามารถลดผิวเปลือกส้ม บริเวณต้นขา ที่เกิดจากเซลลูไลท์ได้
แต่ในบางเป็นบริเวณที่จุดที่มีเส้นเลือดรวมทั้งเส้นประสาทที่สำคัญเป็นจำนวนมาก เช่น ใบหน้า ลำคอ ควรเลือกสถานที่ให้บริการที่น่าเชื่อถือที่มีความชำนาญ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงเป็นอย่างมาก
ดูดไขมันเหมาะกับใคร ?
• ผู้ที่มีการสะสมของไขมันเฉพาะที่
• ผู้ที่ลดไขมันไม่ได้ด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
• ผู้ที่มีไขมันขนาดใหญ่และหนา
การดูดไขมันจึงเหมาะสำหรับการดูดในบริเวณที่มีไขมันสะสมปริมาณมากๆ อย่าง ต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก เนื่องจากไม่อันตราย ลดขนาดได้อย่างรวดเร็วแต่ไม่ควรลดทีละปริมาณมากๆ เนื่องจากอาจจะมีอันตรายและมีความเสี่ยงจากการเสียเลือดมาก และไม่แนะนำให้ดูดไขมันหลายๆ ครั้ง เนื่องจากจะทำให้เกิดพังผืดใต้ผิวทำให้ผิวไม่เรียบร่างกายจะยิ่งบวมช้ำมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทำการดูดไขมันหลายครั้ง
แต่การฉีดแฟตสลายไขมันเป็นการฉีดตัวยาเพื่อทำการสลายเซลล์ไขมัน รวมทั้งไปลดขนาดเซลล์ไขมันที่สะสม ทำให้ผิวหนังมีขนาดไขมันที่น้อยลงและมีขนาดที่เล็กลงโดยไขมันจะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ ไม่มีการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ต่างจากการดูดไขมัน ที่ต้องทำการผ่าตัดและพักฟื้น
สามารถใช้บริการทั้งการดูดไขมัน และฉีดแฟตสลายไขมันร่วมกันได้ โดยเลือกตามบริเวณที่ไม่มีความเสี่ยง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการ ก่อเข้ารับบริการควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดทุกครั้ง
แฟตสลายไขมัน ต่างจากการลดไขมันด้วยเครื่องอย่างไร ?
• เครื่อง Coolsculpting
เป็นเหมาะสำหรับคนที่ต้องการสลายไขมันในปริมาณปานกลางขนาดไม่ใหญ่มาก และไม่หนามากเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขสัดส่วน ไม่ลดลงทันทีหลังทำต้องรอเวลาเพื่อให้ร่างกายกำจัดเซลล์ไขมันออกไปก่อน ใช้เวลาในการเข้ารับบริการในแต่ละครั้ง 45 นาที โดยประมาณ และต้องใช้บริการต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นผล ข้อควรระวัง คือมีของเลียนแบบ ของปลอมเยอะมากจึงต้องหาสถานที่รับบริการที่มั่นใจว่าใช้เครื่องจริง
การใช้บริการเครื่อง Coolsculpting จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันที่มีเวลาเนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานานจึงจะเห็นผล และต้องการปั้นรูปร่างในสวยงามไปด้วยในขณะเดียวกัน จัดเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการฉีด ไม่ต้องการผ่าตัด กลัวเจ็บ แต่ไม่รีบร้อนในการลดไขมัน
แต่การฉีดแฟตสลายไขมัน เป็นการฉีดตัวยาเพื่อทำการสลายเซลล์ไขมัน รวมทั้งไปลดขนาดเซลล์ไขมันที่สะสม ทำให้ผิวหนังมีขนาดไขมันที่น้อยลงและมีขนาดที่เล็กลงโดยไขมันจะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ ไม่มีการผ่าตัด ใช้เวลาไม่นานในการเข้ารับบริการ ต่างจากเครื่อง Coolsculpting ที่ใช้ระยะเวลาในการทำขั้นต่ำ 45 นาที
ต่างจากการฉีดแฟตสลายไขมันที่ใช้วิธีการนำตัวยาเข้าสู่ผิวด้วยการฉีด ลดขนาดไขมันได้ในเวลาเพียง 5-7 วัน แต่อาจไม่ได้ช่วยในเรื่องของการปั้นรูปร่าง
จึงสามารถใช้บริการทั้งแฟตสลายไขมัน และ Coolsculpting ร่วมกันได้เพื่อการลดไขมันได้ดียิ่งขึ้น และลดไขมันเฉพาะจุดได้ดีและลึกยิ่งขึ้น
• เครื่อง Thermage คือ รุ่น FLX
เป็นเครื่องที่ยกกระชับลดไขมันส่วนเกินได้ทั้งใบหน้าและลำตัว แก้ปัญหาความหย่อนยานของผิว ส่งผลให้ผิวแน่นกระชับขึ้น จะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2-3 เดือน โดยเข้าไปช่วยในการสร้างคอลลาเจนบริเวณใต้ผิว โดยทำงานกับทุกชั้นผิวรวมถึงชั้นไขมันช่วยให้ผิวยกกระชับ อีกทั้งยังใช้ปรับรูปหน้าได้
แต่การฉีดแฟตสลายไขมันเป็นการฉีดตัวยาจะเข้าไปทำการสลายเซลล์ไขมัน รวมทั้งไปลดขนาดเซลล์ไขมันที่สะสม ทำให้ผิวหนังมีขนาดไขมันที่น้อยลงและมีขนาดที่เล็กลงโดยไขมันจะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ ไม่มีการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
Thermage FLX จัดเป็นโปรแกรมที่มีราคาสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์ ที่ต้องการลดไขมัน เซลลูไลท์ และยกกระชับไปพร้อมๆ กัน สามารถใช้บริการร่วมกันกับการฉีดแฟตสลายไขมัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น เพื่อผิวที่ยกกระชับไม่หย่อนคล้อย รวมทั้งยังช่วยลดเซลลูไลท์ได้อีกด้วย ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
• เครื่อง Emsculpt
เป็นเครื่องลดกล้ามเนื้อ สร้างไขมัน โดยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นและมีความถี่สูงส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนังช่วยเผาผลาญไขมัน ลดไขมันได้ในเวลาเดียวกันในเครื่องเดียวเท่านั้น ให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการ ซิทอัพ 20,000 ครั้ง ใช้ได้กับบริเวณที่มักเกิดความกังวลอย่างต้นแขน หน้าท้อง และบั้นท้าย ไม่สามารถลดไขมันบริเวณใบหน้าได้ เป็นการใช้เครื่องเพื่อลดไขมันและสร้างกล้ามเนื้อโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด หรือฉีดตัวยาเพื่อเข้าไปสลาย ควรเข้ารับบริการสม่ำเสมอ 4-6 ครั้ง โดยแต่ละการเข้ารับบริการเครื่อง Emsculpt ควรห่างกัน 2-3 วันและเมื่อ ทำครบคอร์สแล้ว สามารถเว้นระยะห่างได้ 1 เดือน
แต่การฉีดแฟตสลายไขมันเป็นการฉีดตัวยาจะเข้าไปทำการสลายเซลล์ไขมัน รวมทั้งไปลดขนาดเซลล์ไขมันที่สะสม ทำให้ผิวหนังมีขนาดไขมันที่น้อยลงและมีขนาดที่เล็กลงโดยไขมันจะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ ไม่มีการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่ไม่สามารถเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือสร้างกล้ามเนื้อเหมือนเครื่อง Emsculpt ได้
ดังนั้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดี สามารถใช้บริการเครื่อง Emsculpt ร่วมกับการฉีดแฟตสลายไขมัน เพื่อให้ร่างกายทั้งสลายไขมัน ลดขนาดไขมัน ลดไขมัน รวมทั้งสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมๆกัน เพื่อให้ได้รูปร่างที่ดีและสมบูรณ์แบบที่สุด
อีกทั้งเครื่อง Emsculpt ยังไม่สามารถใช้กับบริเวณใบหน้าได้ ดังนั้นไขมันบริเวณแก้ม และเหนียงจึงจำเป็นต้องฉีดแฟตสลายไขมันเพื่อลดไขมันบริเวณดังกล่าว เมื่อทำร่วมกันก็จะทำให้มีทั้งใบหน้าและรูปร่างที่สวยงามไร้ไขมันอีกทั้งยังมีกล้ามเนื้อที่สวยงามอีกด้วย
• เครื่อง Coolsculpting
เป็นเหมาะสำหรับคนที่ต้องการสลายไขมันในปริมาณปานกลางขนาดไม่ใหญ่มาก และไม่หนามากเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขสัดส่วน ไม่ลดลงทันทีหลังทำ ต้องรอเวลาเพื่อให้ร่างกายกำจัดเซลล์ไขมันออกไปก่อน ใช้เวลาในการเข้ารับบริการในแต่ละครั้ง 45 นาที โดยประมาณ และต้องใช้บริการต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นผล ข้อควรระวัง คือมีของเลียนแบบ ของปลอมเยอะมากจึงต้องหาสถานที่รับบริการที่มั่นใจว่าใช้เครื่องจริง
การใช้บริการเครื่อง Coolsculpting จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันที่มีเวลาเนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานานจึงจะเห็นผล และต้องการปั้นรูปร่างในสวยงามไปด้วยในขณะเดียวกัน จัดเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการฉีด ไม่ต้องการผ่าตัด กลัวเจ็บ แต่ไม่รีบร้อนในการลดไขมัน
แต่การฉีดแฟตสลายไขมัน เป็นการฉีดตัวยาเพื่อเข้าไปทำการสลายเซลล์ไขมัน รวมทั้งไปลดขนาดเซลล์ไขมันที่สะสม ทำให้ผิวหนังมีขนาดไขมันที่น้อยลงและมีขนาดที่เล็กลงโดยไขมันจะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ ไม่มีการผ่าตัด ใช้เวลาไม่นานในการเข้ารับบริการ ต่างจากเครื่อง Coolsculpting ที่ใช้ระยะเวลาในการทำขั้นต่ำ 45 นาที
ต่างจากการฉีดแฟตสลายไขมันที่ใช้วิธีการนำตัวยาเข้าสู่ผิวด้วยการฉีด ลดขนาดไขมันได้ในเวลาเพียง 5-7 วัน แต่อาจไม่ได้ช่วยในเรื่องของการปั้นรูปร่าง
จึงสามารถใช้บริการแฟตสลายไขมันและ Coolsculpting โปรแกรมร่วมกันได้เพื่อการลดไขมันได้ดียิ่งขึ้น และลดไขมันเฉพาะจุดได้ดีและลึกยิ่งขึ้น
การฉีดแฟตสลายไขมัน เป็นการฉีดตัวยาที่สกัดจากธรรมชาติเพื่อเข้าไปทำการสลาย และลดขนาดไขมันหากเลือกใช้บริการในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย ไม่สะอาด อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกทั้งยังจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงตามมา รวมไปจนถึงผิวหนังเป็นคลื่นจากการสลายไขมันเป็นหย่อมๆ จากความไม่ชำนาญของแพทย์ได้ ดังนั้น ควรหาข้อมูลแพทย์ และเลือกสถานที่เข้ารับบริการให้ดี เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งการได้รับคำแนะนำที่ให้ประโยชน์ที่ดี ก่อนการให้บริการทุกครั้ง Rassapoom Clinic จัดเป็นคลินิกที่มีแพทย์ชั้นำรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก น่าเชื่อถือ และปลอดภัยในการเข้ารับบริการในทุกโปรแกรมอีกทั้งยังมีสาขาถึง 3 สาขาเพื่อให้บริการเพื่อความสะดวกของคนไข้ หรือผู้รับบริการทุกท่าน
เรียกเสียงฮือฮาได้ทุกครั้งที่ทุกคนได้พบเห็น อาจารย์แพทย์ ดร.รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ แพทย์เจ้าของ Rassapoom Clinic กับฉายา คุณหมอ Baby Face ที่คว้าฉายานี้ได้แบบไร้ข้อกังขา เพราะไม่ว่าจะเจอคุณหมอกี่ครั้ง หรือเจอตามหน้าสื่อต่างๆ ก็หน้าเด็กลงเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่นั้น แต่คุณหมอยังขยันที่จะสรรหาเครื่องมือ หรือนวัตกรรมต่างๆ ที่ช่วยให้หน้าเด็กมาแชร์หรือเล่าสู่กันฟังเสมอๆ
จนเรียกได้ว่าคุณหมอเป็นหนึ่งในเจ้าพ่อนวัตกรรม ปั้นหน้าเด็กที่ไม่ว่าใครก็ตามที่มาให้ดูแลผิวหน้าจะต้องหน้าเด็กลงทุกครั้งที่เข้ารับการรักษากับคุณหมอ
ช่วงนี้ก็เช่นกัน อาจารย์แพทย์รัสมิ์ภูมิ แห่ง รัสมิ์ภูมิ คลินิก ได้เป็น 1 ใน 3 คลินิกแรกของไทย ที่ไปเข้ารับรางวัล Emface ก่อนใครในประเทศไทยและเป็นคลินิกแรกที่มีเครื่องหรือนวัตกรรม Emface ในการให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมเครื่องยกกระชับกล้ามเนื้อเครื่องแรก และเครื่องเดียวของโลกในเวลานี้ ที่สามารถยกกระชับบริเวณกล้ามเนื้อ หรือ Muscle ได้ ซึ่ง Rassapoom Clinic ซึ่งคุณหมอได้แอบไปลองใช้เจ้าเครื่อง Emface เทพตัวนี้แล้วก่อนใครเรียกได้ว่าตามเทรนด์สุดๆ แม้กระทั่งเทรนด์ของวงการแพทย์กันเลยทีเดียว